>>สำหรับสาวผมแห้ง เส้นเล็กลีบแบน ติดหนังศีรษะ เมื่อได้เห็นเส้นผมเงางาม นุ่มสลวยๆ พลิ้วไหวตามสายลมของสาวผมสวยทั้งหลายแล้ว คงจะหันมามองเส้นผมตัวเองแล้วรู้สึกแอบอิจฉาเล็กๆ อยู่ในใจ พร้อมกับทุ่มเงินซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากมาย รวมถึงเข้าใช้บริการดูแลบำรุงผมของซาลอนชั้นนำ เพื่อทำให้ผมแห้งเสียของคุณ ชุ่มชื่นสุขภาพดีขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณสามารถช่วยฟื้นผมแห้งเสียให้กลับมาสุขภาพดีได้ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้านของคุณเอง
เริ่มจากวิธีแรก คือการดูแลผมและรักษาผมของคุณในชีวิตประจำวันอย่างถูกสุขลักษณะ โดยคำนึงถึงหลักดูแลผมตามธรรมชาติ 6 ข้อนี้
1.เวลาสระผมให้นวดหนังศีรษะไปด้วย โดยการใช้มือขยุ้มเบาๆ ที่หนังศีรษะ เพื่อช่วยให้เกิดการหมุนเวียนโลหิตทั่วบริเวณหนังศีรษะแถมยังทำให้น้ำมันตามธรรมชาติไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้ดียิ่งขึ้น
2.หลังการสระผม ควรใช้ผมให้แห้งก่อนหวี เพราะการหวีขณะที่ผมเปียกจะทำให้เส้นผมขาดง่าย หากจำเป็นควรใช้หวีไม้ซี่ห่างเพื่อลดการขาดและหลุดร่วงของเส้นผม
3.ส่วนผู้ที่นิยมไดร์ผมให้แห้ง ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าในลักษณะบนลงล่าง จากโคนผมไปสู่ปลายผม เพราะจะช่วยให้เกล็ดผมจะเรียงตัวตามธรรมชาติ ทำให้เส้นผมนุ่มสลวย แลดูเงางามและไม่ชี้ฟู
4.การใช้ไดร์เป่าผมด้วยโรลไฟฟ้าและรีดผมให้ผมเรียบตรงด้วยเครื่องรีดไฟฟ้าควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วยเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาผมแห้งเสีย เพราะความร้อนสูงของเครื่องมือเหล่านี้จะทำให้เส้นผมถูกทำลายอย่างมาก
5.หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสีต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ที่จะเข้าไปทำลายความแข็งแรงของเส้นผมได้
6.หากมีกิจกรรมกลางแจ้ง เส้นผมต้องเผชิญกับแสงแดดแรงกล้า ควรป้องกันเส้นผมจากแสงแดดและรังสียูวีโดยการสวมหมวกหรือชะโลมด้วยผลิตภัณฑ์ปรับสภาพเส้นผมก่อนออกแดด
photoshop
วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556
มะระขี้นก
มะระขี้นก เป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นได้ทั่ว ๆ ไป ลูกเล็กรูปร่างคล้ายกระสวย ผิวเปลือกขรุขระและมีปุ่มยื่นออกมา ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองอมแดง ปลายผลจะแตกเป็น 3 แฉก นกชอบมาจิกกินทั้งผลและเมล็ด แล้วก็ถ่ายเมล็ดไว้ตามที่ต่าง ๆ จึงเรียกกันว่ามะระขี้นก
มะระขี้นก มีรสขมกว่ามะระจีน จึงนิยมกินในหมู่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ผลอ่อนนำไปต้มหรือเผากินได้ทั้งลูก ผลแก่ต้องนำมาผ่ากลาง คว้านเมล็ดออกเสียก่อน การลดความขมของมะระขี้นกนั้นทำได้โดยต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่เกลือสักหยิบมือ ลวกมะระในน้ำเดือดสักครู่ มะระจะยังคงมีผลสีเขียวสด หรือจะต้มกินกับน้ำพริกก็ได้ บางครั้งราดด้วยกะทิสดเพื่อเพิ่มรสชาติ
การปรุงแกงจืดมะระขี้นกยัดไส้หมูสับ ต้องต้มนานหน่อยให้ความขมจางลง หรือปรุงอาหารเผ็ด เช่น พะแนงมะระขี้นกยัดไส้ หรือเป็นแกงเผ็ดก็ได้ ถ้าจะนำไปปรุงอาหารผัด เช่น ผัดกับไข่ ให้ต้มน้ำแล้วเททิ้งหนึ่งครั้ง
นอกจากใช้ผลเป็นอาหารแล้ว ใบของมะระขี้นกก็นำมาทำอาหารได้ แต่ไม่นิยมกินสดเพราะมีรสขม ยอดมะระลวกเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก หรือกับปลาป่นของชาวอีสาน ยิ่งเด็ดยิ่งแตกยอดเพิ่มอีก ทางภาคเหนือนิยมนำยอดมะระสดมากินกับลาบ หรือนำไปทำแกงคั่ว แกงเลียง และแกงป่า ได้รสน้ำแกงที่ขมเฉพาะตัว
ทางอีสานนิยมนำใบมะระขี้นกใส่ลงไปในแกงเห็ดแบบพื้นบ้านจะทำให้แกงมีรสขมนิด ๆ กลมกล่อมมาก บ้างนิยมนำใบมะระมาต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก
คุณค่าทางโภชนาการ[แก้]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้มะระขี้นก เป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นได้ทั่ว ๆ ไป ลูกเล็กรูปร่างคล้ายกระสวย ผิวเปลือกขรุขระและมีปุ่มยื่นออกมา ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเหลืองอมแดง ปลายผลจะแตกเป็น 3 แฉก นกชอบมาจิกกินทั้งผลและเมล็ด แล้วก็ถ่ายเมล็ดไว้ตามที่ต่าง ๆ จึงเรียกกันว่ามะระขี้นก
มะระขี้นก มีรสขมกว่ามะระจีน จึงนิยมกินในหมู่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ผลอ่อนนำไปต้มหรือเผากินได้ทั้งลูก ผลแก่ต้องนำมาผ่ากลาง คว้านเมล็ดออกเสียก่อน การลดความขมของมะระขี้นกนั้นทำได้โดยต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่เกลือสักหยิบมือ ลวกมะระในน้ำเดือดสักครู่ มะระจะยังคงมีผลสีเขียวสด หรือจะต้มกินกับน้ำพริกก็ได้ บางครั้งราดด้วยกะทิสดเพื่อเพิ่มรสชาติ
การปรุงแกงจืดมะระขี้นกยัดไส้หมูสับ ต้องต้มนานหน่อยให้ความขมจางลง หรือปรุงอาหารเผ็ด เช่น พะแนงมะระขี้นกยัดไส้ หรือเป็นแกงเผ็ดก็ได้ ถ้าจะนำไปปรุงอาหารผัด เช่น ผัดกับไข่ ให้ต้มน้ำแล้วเททิ้งหนึ่งครั้ง
นอกจากใช้ผลเป็นอาหารแล้ว ใบของมะระขี้นกก็นำมาทำอาหารได้ แต่ไม่นิยมกินสดเพราะมีรสขม ยอดมะระลวกเป็นผักจิ้มกินกับน้ำพริก หรือกับปลาป่นของชาวอีสาน ยิ่งเด็ดยิ่งแตกยอดเพิ่มอีก ทางภาคเหนือนิยมนำยอดมะระสดมากินกับลาบ หรือนำไปทำแกงคั่ว แกงเลียง และแกงป่า ได้รสน้ำแกงที่ขมเฉพาะตัว
ทางอีสานนิยมนำใบมะระขี้นกใส่ลงไปในแกงเห็ดแบบพื้นบ้านจะทำให้แกงมีรสขมนิด ๆ กลมกล่อมมาก บ้างนิยมนำใบมะระมาต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก
คุณค่าทางโภชนาการ[แก้]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้
ประโยชน์ทางยา[แก้]
สรรพคุณของมะระขี้นก 1. จะช่วยเจริญอาหาร การที่ผลมะระขี้นกช่วยเจริญอาหารได้ เพราะในเนื้อผลมีสารที่มีรสขมกระตุ้นให้น้ำย่อยออกมา มากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารได้เพิ่มขึ้นใช้ผลมะระปิ้งไฟ หรือลวกจิ้มน้ำพริก 2. ยับยั้งเชื้อ HIV หรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ใช้เมล็ดจากผลสุก 30 กรัม แกะเมล็ด ล้างเนื้อเยื่อสีแดงที่หุ้มเมล็ดออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ กะเทาะเมล็ดเปลือกมะระ ควรกะเทาะในภาชนะที่เย็น เช่น ในที่มีอุณหภูมิต่ำ จะได้เนื้อในสีขาว ควรสวมถุงมือยางขณะทำ
- นำเนื้อใน มาล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำหรือน้ำเกลือที่แช่เย็นลงไป 90-100 มิลลิลิตร ปั่นในเครื่องปั้นที่แช่เย็น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น จะได้น้ำยาสีขาวขุ่น
- น้ำยาสีขาวขุ่น ใช้สวนทวารหนัก ครั้งละ 10 มิลลิลิตร วันละครั้ง
- ถ้านำน้ำ ที่ปั่นไปแช่ตู้เย็น จะแยกเป็น ๒ ชั้น ให้ใช้ชนบนที่มีลักษณะใส
ข้อควรระวัง 1. การสวนทวาร ควรใช้วาสลินช่วยหล่อลื่นก่อนการสวน 2. ทุกขั้นตอนให้ระวังเรื่องความสะอาด 3. ต้องรักษาความเย็นตลอดเวล
ประโยชน์ทางยา[แก้]
สรรพคุณของมะระขี้นก 1. จะช่วยเจริญอาหาร การที่ผลมะระขี้นกช่วยเจริญอาหารได้ เพราะในเนื้อผลมีสารที่มีรสขมกระตุ้นให้น้ำย่อยออกมา มากขึ้น จึงทำให้รับประทานอาหารได้เพิ่มขึ้นใช้ผลมะระปิ้งไฟ หรือลวกจิ้มน้ำพริก 2. ยับยั้งเชื้อ HIV หรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ใช้เมล็ดจากผลสุก 30 กรัม แกะเมล็ด ล้างเนื้อเยื่อสีแดงที่หุ้มเมล็ดออก ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ กะเทาะเมล็ดเปลือกมะระ ควรกะเทาะในภาชนะที่เย็น เช่น ในที่มีอุณหภูมิต่ำ จะได้เนื้อในสีขาว ควรสวมถุงมือยางขณะทำ
- นำเนื้อใน มาล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำหรือน้ำเกลือที่แช่เย็นลงไป 90-100 มิลลิลิตร ปั่นในเครื่องปั้นที่แช่เย็น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น จะได้น้ำยาสีขาวขุ่น
- น้ำยาสีขาวขุ่น ใช้สวนทวารหนัก ครั้งละ 10 มิลลิลิตร วันละครั้ง
- ถ้านำน้ำ ที่ปั่นไปแช่ตู้เย็น จะแยกเป็น ๒ ชั้น ให้ใช้ชนบนที่มีลักษณะใส
ข้อควรระวัง 1. การสวนทวาร ควรใช้วาสลินช่วยหล่อลื่นก่อนการสวน 2. ทุกขั้นตอนให้ระวังเรื่องความสะอาด 3. ต้องรักษาความเย็นตลอดเวล
วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
ประโยชน์ของส้ม
1. ส้มเป็นผลไม้นางเอก มีสารไฟโตนิวเทรียนต์มาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส .. ส้ม มีคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกาย ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็ว และแผลเรียบเนียนขึ้น
2. ส้ม ให้แคลเซียมและวิตามินดี แก่ร่างกาย มากพอๆ กับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย แต่พึงเข้าใจด้วยว่า กรดอะซีติกในส้ม อาจทำลายสารเคลือบฟันได้ จึงไม่ควรแปรงฟันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากทานส้มหรือดื่มน้ำส้ม
3. ส้ม มีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งไปกว่านั้นส้มยังช่วยป้องกันและรักษาเลือดออกตามไรฟัน และมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกาย
4. เปลือกของส้ม มีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้จากการศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
5. ตำรับจีนมักเสิร์ฟเปลือกส้ม คู่กับอาหารเนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิห้อง จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ
6. ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และจากการศึกษายังพบว่า การบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง
7. ส้ม จะทานก็ได้ จะดมผิวก็ได้ เพราะส้มมีสารโฟเลตซึ่งช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ตระกูลส้มสามารถทำให้เบิกบานได้
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)